คอนโดมิเนียมคือบ้านหลังที่สอง ที่เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของมนุษย์ทุกวันนี้
แต่เนื่องจากสภาพการจราจรในเขตต่างๆกรุงเทพฯ มีสภาพค่อนข้างแย่และทำให้เสียเวลา สุขภาพจิตกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงเวลา
เช่น วันธรรมดาในช่วงเช้า 7.00 น. - 9.00 น. ,ช่วงเย็น 5.00น. - 7.30 น.
ฉนั้นคอนโดมิเนียมจึงเป็นอีกทางเลือกของคนทำงานในกรุงเทพ รวมทั้งกลุ่มนักศึกษา, คนทำงานจบใหม่, ครอบครัวเล็ก/ใหญ่
จำนวนห้องชุดคอนโดมิเนียมมีเพิ่มมากขึ้นทุกปี
เมื่อตัดสินใจได้แล้วต่อไปคือขั้นตอนการเช่าคอนโดมิเนียม
- การทำสัญญาเช่าและวางเงินมัดจำ
- ควรทำสัญญาเช่าคอนโด ให้เป็นลายลักษณ์อักษร ลงชื่อทั้งสองฝ่าย
- เตรียมสำเนาบัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน หรือพาสปอร์ตไว้ใช้เป็นหลักฐานในการทำสัญญาเช่า
- ในสัญญาควรระบุชื่อผู้เช่า/เจ้าของห้องให้ชัดเจน รายการสิ่งของต่างๆที่มีบริการไว้ในห้องพัก, ราคาเช่า, ค่าซ่อมอะไรบ้างที่ใครเป็นผู้จ่าย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง เช่น การติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่ม, เจาะทุบกำแพง เป็นต้น
- สอบถามข้อตกลง, ระบุระยะเวลาในการเช่า, วันครบกำหนดจ่ายค่าเช่า, วิธีการจ่ายค่าเช่า, เบี้ยปรับจ่ายล่าช้า เช่น วันละ 200 บาท เป็นต้น รวมถึงเหตุที่สามารถยกเลิกสัญญาและริบเงินมัดจำให้ชัดเจน
- การทำสัญญาเช่า จะมีการเรียกเก็บเงินประกันการเช่าหลังเซ็นสัญญาเช่า เช่น ให้เช่า 10,000 บาท/เดือน เงินประกันที่ต้องชำระคือ 20,000 บาทและจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน เพื่อประกันความเสียหายของห้องชุดเป็นหลัก ไม่สามารถนำมาเป็นเหตุค้างค่าเช่าก่อนครบสัญญา 1เดือน
- แจ้งการย้ายเข้าพักอาศัยกับนิติบุคคล โดยการยื่นสำเนาสัญญาเช่าและบัตรประชาชนไว้เป็นหลักฐานในการติดต่อหรือแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ระหว่างผู้เช่าและนิติบุคคล
- นิติบุคคลจะแจ้งกฎระเบียบพื้นฐานของผู้อาศัย เช่น ห้ามส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น, ห้ามเลี้ยงสัตว์, ห้ามทะเลาะเบาะแว้งในสถานที่อาคาร เป็นต้น
- ค่าเช่ารายเดือนจะรวมค่าส่วนกลางไว้แล้ว อาจมีบางเจ้าของห้องชุดเรียกเก็บค่าเช่าอย่างเดียว ไม่รวมค่าส่วนกลางและให้ผู้เช่าจ่ายค่าส่วนกลางกับนิติบุคคลเอง (ปัจจุบันไม่น่าจะเรียกเก็บแบบนี้แล้ว) หากมีบิลค่าส่วนกลางเรียกเก็บรวมมากับบิลค่าน้ำ ผู้เช่าชำระส่วนบิลค่าน้ำและแจ้งบิลเรียกเก็บส่วนกลางให้กับเจ้าของห้องทราบทันที
- เบอร์ติดต่อเจ้าของบ้านหรือAgent ที่ทำสัญญาเช่า ต้องมีเก็บไว้กรณีเหตุจำเป็น หรือแจ้งเรื่องร้องเรียน
- เมื่อต้องการแจ้งเลิกสัญญาเช่าก่อนกำหนด หรือไม่ต่อสัญญาเช่าในปีถัดไป ผู้เช่าควรแจ้งให้เจ้าของห้อง/Agent ทราบก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน เพื่อให้เจ้าของได้เตรียมเงินประกัน และผู้เช่าได้เตรียมมอบห้องเช่าคืน
- ผู้เช่าต้องชำระบิลต่างๆก่อนย้ายออก เช่น ค่าน้ำ, ค่าไฟฟ้า เป็นต้น รวมถึงยกเลิกการใช้บริการที่ผู้เช่าขอใช้บริการและให้ส่งบิลเรียกเก็บมายังห้องเช่านั้นๆ เช่น อินเตอร์เนต, เคเบิ้ลทีวี, บริการน้ำดื่ม, เบอร์โทรศัพท์บ้าน และอื่นๆ
หมายเหตุ : เงินประกันความเสียหายที่จ่ายไป จะคืนให้แก้ผู้เช่าโดยปราศจากดอกเบี้ย
การส่งมอบห้องคืน เพื่อประโยชน์ของผู้เช่าที่ต้องการรับเงินประกันเต็มจำนวน
- นัดหมายวันส่งมอบห้องให้ชัดเจน
- ย้ายสิ่งของใช้ส่วนตัวของผู้เช่าออกจากห้องเช่า ก่อนวันนัดหมายส่งมอบห้อง
- ทำความสะอาดห้องเช่าให้เรียบร้อย เหมือนกับวันแรกที่ย้ายเข้า ทั้งห้องนอน,ห้องน้ำ,ครัว,ระเบียง,พื้น,ผนัง
- ตรวจสภาพการใช้งานสิ่งของต่างๆ หากชำรุดควรซ่อมให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบห้อง เช่น สีผนัง, พื้นลามิเนต, พื้นกระเบื้อง, กลอนประตู เป็นต้น
- ตรวจสอบการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ
- เมื่อถึงเวลาส่งมอบห้อง เจ้าของห้องจะทำการตรวจสภาพห้องและประเมินความเสียหายที่พบเจอ
- ตกลงค่าเสียหายให้เรียบร้อยและนัดหมายวันที่จะได้รับคืนเงินประกัน ภายใน 15 วันหลังจากส่งมอบห้อง