วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ระเบียบของคอนโดมิเนียมครอบคลุมถึงผู้เช่าและผู้พักอาศัย

จากข้อมูลการเปิดขายคอนโดมิเนียม ปี 2555 มีจำนวน 64,450 ยูนิต* จาก 248 โครงการ  และมีราคาเปิดขายตั้งแต่ 800,000 - 10,000,000 บาทขึ้นไป ต่อยูนิต
แหล่งข้อมูล: http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9550000114895&TabID=2&

บ้างลงทุนเพื่อการปล่อยเช่าหรืออยู่อาศัยเอง ทำให้ต้องมีนิติบุคคลช่วยดูแลกฎระเบียบในการอยู่ร่วมอาศัย ทั้งนี้เพื่อความเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม จึงมีระเบียบมาตรฐานที่ทุกคนต้องรับทราบ ดังนี้ค่ะ

  • การเข้า-ออก ภายในอาคารชุด  จะต้องใช้คีย์การ์ดทุกครั้ง ในกรณีที่คีย์การ์ดสูญหายหรือชำรุดใช้การไม่ได้ ผู้พักอาศัยจะต้องทำการซื้อใหม่ที่สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด
  • กรณีที่มีแขกมาเยี่ยม  ให้ติดต่อ ร.ป.ภ. หรือสำนักงานนิติบุคคล เพื่อแจ้งให้เจ้าของห้องชุดหรือ "ผู้เช่า" ลงมารับ 
  • การส่งเสียงรบกวนแก่ส่วนรวม  ฝ่ายจัดการนิติบุคคลอาคารชุดจะทำการกล่าวตักเตือน แต่ถ้าครั้งต่อไป ทางฝ่ายจัดการนิติบุคคลมีสิทธิที่จะแจ้งให้เจ้าของห้องชุดบอกเลิกสัญญาเช่าแก่ "ผู้เช่า" 
  • ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาเลี้ยงภายในห้องชุดเป็นอันขาด  ถ้าหากมีการร้องเรียนจากผู้พักอาศัยข้างเคียง ว่ามีสัตว์เลี้ยงของห้องใดทำความเดือดร้อนให้จะแจ้งให้ "ผู้เช่า" นำสัตว์ออกไปจากบริเวณคอนโดทันที ถ้าหากไม่ปฏิบัติตามทางนิติบุคคล มีสิทธิ์แจ้งให้เจ้าของห้องชุด ยกเลิกสัญญาเช่ากับ "ผู้เช่า" ได้ทันที
  • ห้องชุดเพื่อการพักอาศัยเท่านั้น ห้ามใช้ประกอบกิจการอื่นๆ 

  • ห้ามใช้แก๊สหรือเก็บวัตถุไวไฟในห้อง  ใช้ได้เฉพาะเตาไฟฟ้าเท่านั้น หากพบทางนิติบุคคลฯ จะทำการปรับ ยกเว้นแต่ทางนิตบุคลบางแห่งจะอนุญาต
  • ไม่ควรวางสิ่งของหน้าห้องหรือทางเดินร่วม ดูไม่สวยงาม อาจเกิดอันตรายต่อผู้อื่นเนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนกลาง
  • สิ่งของที่วางหรือแขวนยื่นออกนอกระเบียง  ดูไม่สวยงามและสร้างความเดือดร้อนเพื่อนบ้านชั้นล่าง  เช่น การตากผ้าบนราวระเบียง , วางกระถางต้นไม้ไม่ปลอดภัย
  • ไม่ทิ้งสิ่งของและบุหรีลงจากระเบียง  เป็นอันตรายกับผู้ที่อยู่ด้านล่าง และอาจตกใส่เสื้อผ้าของห้องด้านล่าง ทิ้งสิ่งของที่มีน้ำหนัก เช่น ขวด กระป๋อง ฯลฯ เป็นอันตรายกับผู้ที่อยู่ด้านล่าง
  • ห้องชุดไม่เหมาะในการจัดงานเลี้ยงParty  ทำให้มีการส่งเสียงดังและสร้างความเดือดร้อนกับเพื่อนบ้านข้างเคียง
  • เงินประกัน จะเป็นการสัญญาว่าจะปฏิบัติตามข้อสัญญาเช่าและจะไม่สามารถนำมาหักเป็นค่าเช่า เงินประกันนี้จะคืนให้แก่ผู้เช่าเต็มจำนวนภายใน 60 วัน หากไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นภายในห้องตามที่ระบุในสัญญาเช่า เช่น สีผนัง, อุปกรณ์บุบเสียหาย เป็นต้น

แหล่งข้อมูลอัตราการเพิ่มจำนวนยูนิตของคอนโดมิเนียม
http://www.brandage.com/Asset/BrandAge-Siamrath/52.pdf



My Great Web page

วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การเตรียมตัวก่อนขอสินเชื่อซื้อบ้านหรือคอนโด และ ปัจจัยที่ช่วยให้ผ่อนสบายกระเป๋า

การเตรียมตัวก่อนขอสินเชื่อซื้อบ้านหรือคอนโด มีสิ่งที่ต้องเตรียมดังนี้



1. เตรียม Statement ให้พร้อม หากคุณมีอาชีพทำงานประจำมีรายได้จากเงินเดือน สามารถใช้ Slip เงินเดือนหรือ หนังสือรับรองฯ 50 ทวิ ในการยืนยันรายได้ หากคุณมีอาชีพอิสระค้าขายทั่วไป ไม่มีเงินเดือนประจำ ก็สามารถกู้ได้ โดยต้องเตรียมหลักฐานแสดงที่มาที่ไปของเงินให้มีความชัดเจน เช่น บัญชีเงินฝากที่มียอดรายได้เข้าสม่ำเสมอ การเดินบัญชีกระแสรายวัน การใช้เช็ค เป็นต้น เพื่อสร้างความมั่นใจในการชำระหนี้คืนได้

2. รักษาเครดิต ในการขอสินเชื่อต้องมีการตรวจสอบสถานะสินเชื่อและประวัติการชำระหนี้ที่ผ่าน มาก่อน โดยการตรวจสอบเครดิตบูโร ดังนั้น ควรจะรักษาเครดิตไว้ให้ดี เพื่อมิให้เป็นข้อจำกัดในการขอสินเชื่อได้

3. เตรียมออมเงินให้เพียงพอ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการซื้อบ้านในปัจจุบันคือ เงินดาวน์บ้าน คุณควรกันเงินสำรองฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 6 เดือนก่อนกู้บ้าน และเตรียมเงินดาวน์อย่างน้อย 10% ของราคาบ้านที่ตั้งใจไว้ ยิ่งมีมากก็ช่วยลดภาระการผ่อนชำระลง เวลาขอสินเชื่อจะได้ผ่อนอย่างสบายกระเป๋า เช่น ราคาบ้าน/คอนโด 3,000,000 บาท เงินดาวน์ 10%ของราคาซื้อขาย คือ 300,000 บาท ระยะเวลาในการผ่อนดาวน์อย่างน้อย 10 งวด (ไม่รวมเงินจองและทำสัญญา)  เป็นต้น

หลังจากที่เตรียมตัวแล้ว ถึงเวลาจะจะกู้บ้านให้สบายกระเป๋า มี 4 ปัจจัยที่ต้องคำนึง คือ

1. เงินดาวน์มีเท่าไร ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น กำหนดให้ผู้ที่จะซื้อบ้านต้องมีเงินดาวน์ไม่น้อยกว่า 10% ของราคาบ้าน ดังนั้น หากจะซื้อบ้านราคาสัก 3 ล้านบาท จะต้องมีเงินเก็บเพื่อเป็นเงินดาวน์อย่างน้อย 3 แสนบาท หากมีเงินดาวน์มากกว่าก็จะทำให้ประหยัดค่าดอกเบี้ยลงไปได้

2. ยอดผ่อนชำระต่อเดือน ปกติแล้วภาระการผ่อนรายเดือนที่ไม่หนักจนเกินไป ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ก่อนภาษี หากรายได้คนเดียวผ่อนไม่ไหว สามารถกู้ร่วมได้ ทั้งนี้ การกู้ร่วม ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด หรือเป็นสามีภรรยา

3. ระยะเวลาในการผ่อนชำระ ปกติจะผ่อนสูงสุดไม่เกิน 30 ปี เนื่องจากระยะเวลาผ่อนเมื่อรวมกับอายุของผู้กู้แล้ว ต้องไม่เกิน 60-65 ปี (ช่วงอายุเกษียณ) ระยะเวลาผ่อนสั้น ยอดผ่อนชำระรายเดือนจะมากกว่าระยะเวลาผ่อนยาว หากมีความสามารถในการผ่อนสูงสามารถเลือกผ่อนสั้นได้เพื่อให้หมดภาระได้เร็ว และประหยัดค่าดอกเบี้ยจ่าย

4. รูปแบบอัตราดอกเบี้ย ปัจจุบันสถาบันการเงินมีทางเลือกให้กับผู้ขอสินเชื่อ ว่าจะผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ หรือ แบบลอยตัว ผู้ขอสินเชื่อควรเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ เมื่ออัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และ ควรเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว เมื่ออัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง

ปกติทั่วไป หากขอสินเชื่อ จำนวน 1 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อน 30 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 7% ต่อปี จะมียอดผ่อนชำระประมาณ 8,000 บาทต่อเดือน ลองพิจารณาปัจจัยดังที่ได้กล่าวในเบื้องต้นว่า จะผ่อนบ้านอย่างไรให้สบายกระเป๋ากัน

หลังจากพิจารณาปัจจัยดังกล่าว แล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การวางแผน ก็คือ การนำแผนมาปฏิบัติการ เนื่องจากเงินดาวน์เป็นก้าวแรกสำหรับการซื้อบ้าน ดังนั้น การเก็บออมเงินดาวน์ให้บรรลุเป้าหมายนั้น จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การบรรลุเป้าหมายเป็นได้ การออมเงินดาวน์ให้มีผลตอบแทนที่เหมาะสม และ มีสภาพคล่องในการแปลงเป็นเงินสดได้ เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาสำหรับแผนปฏิบัติการ คุณอาจจะพิจารณาเก็บออมในรูปของกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อให้มีสภาพคล่อง และมีผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป
นอก จากนี้ ในการกู้บ้านอย่าลืมพิจารณาปัจจัยเรื่องการวางแผนภาษี เนื่องจากกรมสรรพากรให้สิทธิสำหรับผู้ที่ซื้อบ้านสามารถนำดอกเบี้ยจ่ายมาลด หย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท เป็นการบรรเทาค่าใช้จ่ายทางภาษีของคุณได้อีกทางหนึ่ง (เพิ่มเงินในกระเป๋ามากขึ้น) และเพื่อให้การวางแผนภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านหรือคอนโดฯ ก็เป็นเรื่องสำคัญในการวางแผนภาษีด้วย

บทความจาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ภาพประกอบ gettyimages.com

ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง
การคำนวณเงินผ่อนชำระ
สินเชื่อบ้านธนาคารพาณิชย์
สินเชื่อบ้านจำนอง ไถ่ถอนจากสถาบันอื่นๆ

วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

ต้องการฝากขาย/ปล่อยเช่า อสังหาฯ บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม ที่ดินกับตัวแทน

บริการดูแลการขาย ซื้อและเช่า สินทรัพย์ เช่น คอนโดมิเนียม บ้าน ทาวน์เฮ้าส์และอื่นๆ 



เมื่อต้องการ ซื้อ ขาย หรือให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ด้วยบริการแบบครบวงจรจากทีมงานมืออาชีพ จึงมั่นใจได้ว่าทรีพลัสโฮมจะสามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างเต็มที่ เพื่อช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุดในเวลาที่เหมาะสม

การใช้บริการของตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ในการเลือกซื้อบ้านหรือขายบ้านเป็นการเปิดโอกาสและทางเลือกให้มากขึ้น และยังมีโอกาสได้รับคำแนะนำ การช่วยเหลือในด้านต่างๆที่เกี่ยวข้อง
  •  การพาไปสำรวจบ้าน
  • การติดต่อสถาบันการเงิน
  • การหาราคาประเมิน ฯลฯ

ทรีพลัสโฮม ช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขาย มีความสะดวกสบาย ซื้อขายง่ายและรวดเร็วขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่าย มีความซื่อสัตย์ สุจริต และเชื่อถือได้




บริการของทรีพลัสโฮม 
สบายใจเพียงให้เราดูแลเรื่องราคาและบริการครบวงจร ประโยชน์ทั้งเจ้าของสินทรัพย์และผู้ซื้อ/ผู้เช่า

ทรีพลัสโฮม บริการขาย/ซื้อ/เช่า อสังหาริมทรัพย์ทั่วกรุงเทพฯ และทั่วประเทศไทย
คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ โรงงาน ที่ดิน และอื่นๆ

อยากขาย ? อยากปล่อยเช่า ? อยากทำกำไร?
ให้ทรีพลัสโฮม ดูแลให้คุณ สะดวกและรวดเร็ว

เหนือยกับการตอบข้อมูลเอง งานประจำยุ่งมากไม่มีเวลาพาคนสนใจไปดูสถานที่ "ให้ทรีพลัสโฮม ดูแลค่ะ"

การซื้อ/ขายผ่านบริษัทตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ ที่เรียกว่า real estate agent ซึ่งจะทำหน้าที่แทนผู้ขายโดยจะไม่มีการคิดค่าบริการกับผู้ซื้อแต่ประการใด
ค่าบริการที่เจ้าของสินทรัพย์สนใจจะฝากขายและฝากเช่า ดังนี้ค่ะ
  • ต้องการขาย เมื่อทรีพลัสโฮมปิดการขายได้ คิดค่าบริการ 3% (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล ชลบุรี ชะอำ-หัวหิน และจังหวัดอื่นๆ คิดค่าบริการ 4% (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • ต้องการให้เช่า เมื่อทรีพลัสโฮมปิดการเช่าตามสัญญาเช่า 1 ปี คิดค่าบริการ  1 เดือนของค่าเช่า , สัญญาเช่า 6 เดือน คิดค่าบริการ 0.5 เดือนของค่าเช่า หากมีต่อสัญญาเช่า คิดค่าบริการ 1 เดือนของค่าเช่า ในเขตกรุงเทพฯ และพัทยา 
  • ระหว่างทำการขายหรือปล่อยให้เช่า เจ้าของสินทรัพย์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เช่น ค่าโฆษณาทุกช่องทางสื่อต่างๆ ฟรีค่ะ

การทำงานและประพฤติตนที่ยึดมั่นในจรรยาบรรณในวิชาชีพ โดยมีความรับผิดชอบต่อผู้รับบริการ ลูกค้า ต่อนายหน้าอื่นและต่อสังคมโดยส่วนรวม

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 
เบอร์โทร. 063-8714714
LINE ID : houseforliving 
Email: threeplushome@gmail.com 



My Great Web page

วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

ค่าธรรมเนียมที่จะเกิดขึ้นเมื่อทำการซื้อขายอสังหาฯ


เมื่อมีการซื้อขาย อสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้น
การดำเนินเรื่องเอกสารและชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ระหว่างผู้ชื้อและผู้ขายมีดังนี้
** ทุกกิจกรรมเกิดขึ้นที่ สำนักงานที่ดิน


ค่าใช้จ่ายแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล

สำหรับคำว่าภาษีธุรกิจเฉพาะ ผู้ชื้อเป็นฝ่ายชำระ หากเว้นเสียแต่ว่าผู้ขายยินยอมช่วยชำระให้ครึ่งหนึ่ง อยู่ที่การตกลงกันของทั้งสองฝ่าย ข้อมูลเพิ่มเติม >> คลิ้กอ่านที่นี่ค่ะ

ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ สามารถค้นเพิ่มเติมได้ค่ะ >> คลิ้กอ่านที่นี่ค่ะ